สนามหญ้าในสวนของเจ้าพระยาภาณุวงศ์มหาโกษาธิบดี (ท้วม บุนนาค)

ต่อมาสมเด็จพระพุฒาจารย์ (นวม) ได้ย้ายโรงเรียน สตรีฯ ไปตั้งที่ที่ดินและตึกบ้านของท่านผู้หญิงพัน ที่ตำบลตลาดแขก เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๒ และได้เปลี่ยนชื่อโรงเรียนเป็น โรงเรียนศึกษานารี ในปีต่อมาได้ขยายหลักสูตรสอนถึงระดับมัธยมปีที่ ๓ เช่นเดียวกับโรงเรียนสุขุมาลัย ที่วัดพิชยญาติการาม และโรงเรียนมัธยมอนงค์ (โรงเรียนมัธยมอุดมวิทยายนเดิม) นักเรียน ที่อยู่บริเวณชุมชนนี้ เมื่อจบชั้นมัธยมศึกษาแล้ว สามารถ จะศึกษาต่อที่โรงเรียนฝึกหัดครูบ้านสมเด็จเจ้าพระยา (ซึ่งเดิมตั้งอยู่ที่โรงเรียนศึกษานารีในปัจจุบัน และได้สลับที่ตั้งกับโรงเรียนศึกษานารี ใน พ.ศ. ๒๔๗๕)

โรงเรียนศึกษานารีในปัจจุบัน ตั้งอยู่บนที่ดิน บริเวณที่เรียกว่า "บ้านสมเด็จ" เป็นที่ดินของเจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์ (วร บุนนาค) บิดาของเจ้าคุณพระประยูรวงศ์ (เจ้าคุณจอมมารดาแพ) เจ้าคุณพระประยูรวงศ์ได้อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ตั้งแต่ยังเล็ก จนท่านได้ถวายตัวเป็นเจ้าจอมในรัชกาลที่ ๕ ท่านจึงย้ายออกไป เจ้าคุณพระประยูรวงศ์ท่านมีความผูกพันต่อสถานที่นี้มาก ท่านได้บริจาคเงินจุนเจือโรงเรียนศึกษานารีมาตลอดชีวิตของท่าน ทางโรงเรียนได้สร้างอาคารเรียนขึ้นหลังหนึ่ง เรียกว่า "เรือนเจ้าคุณพระประยูรวงศ์บูรณะ" เรียกสั้นๆ ว่า "เรือนเจ้าคุณฯ" ก่อสร้างขึ้นด้วยเงินที่เจ้าคุณพระประยูรวงศ์บริจาคบำเพ็ญการกุศลสาธารณประโยชน์ เมื่อท่านมีอายุครบ ๘๐ ปี (ปัจจุบันนี้อาคารหลังนี้ได้รื้อลงแล้ว เนื่องจากสภาพเก่าทรุดโทรม)


วัดประยุรวงศาวาส

ศาลเจ้ากวนอู
มัสยิดกูวติลอิสลาม อักษรจารึกที่ซุ้มประตูมัสยิดฯ คือปีที่สร้างมัสยิดหลังนี้
ฮิจเราะห์ศักราช ๑๒๘o ประมาณ พ.ศ. ๒๔o๒

บ้านพักอาศัยและโรงน้ำปลาข้างศาลเจ้ากวนอู

โรงเก็บสินค้าย่านตึกขาว

คลองสมเด็จด้านหน้าวัดอนงคารามสมัยรัชกาลที่ ๕

คฤหาสน์เก่า

บริเวณตอนเหนือของสถาบันราชภัฏบ้านสมเด็จ เจ้าพระยา ติดกับคลองบางกอกใหญ่ เป็นสถานที่ต่อเรือของกองทหารในสังกัดของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ ส่วนบริเวณด้านตะวันออกของสถาบัน คือ บริเวณวัดบุปผารามซึ่งเคยเป็นสถานที่ฝึกทหารตามแบบตะวันตกแต่เดิม ในสมัยนั้นพระบาทสมเด็จ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ โปรดให้จ้างชาวอังกฤษ ชื่อกัปตันนอกซ์ (เซอร์ โทมัส ยอร์ช นอกซ)์ มาเป็นครูฝึกทหารในบริเวณดังกล่าว บริเวณนั้นมีชาวมอญอพยพมาอาศัยอยู่ เนื่องจากเป็นผู้ที่มีความสามารถในการต่อเรือ และเคยสังกัดในกองทหารของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหา ศรีสุริยวงศ์มาก่อน ส่วนบริเวณตอนใต้ของโรงเรียนเป็นที่อยู่ ของชาวลาว คือบริเวณวัดบางไส้ไก่


วัดพิชยญาติการาม
จากแผนที่กรุงเทพ (Plan of Bangkok) ปี ค.ศ. ๑๘๘๘ จัดทำโดย McCarthy พิมพ์ที่ลอนดอนประเทศอังกฤษ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๑ แสดงถึงถิ่นฐานบ้าน ของบุคคลในตระกูลบุนนาค เริ่มแต่คลองบางหลวงเลียบ ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นบ้านของเจ้าพระยาภาสกรวงศ์ (พร บุนนาค) ซึ่งสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ ได้แบ่งที่ดินของบ้านพระยาอภัยสงคราม (นกยูง บุนนาค) ให้ ถัดมาจะเป็นบ้านของพระยาจันทบูรณ์ (พระยาอรรคราชนารถภักดี - หวาด บุนนาค) ถัดลงมาเป็นบ้านของเจ้าพระยาภาณุวงศ์มหาโกษาธิบดี (ท้วม บุนนาค) และพระยามนตรีสุริยวงศ์ (ชุ่ม บุนนาค) เรื่อยลงมาจนถึงคลองขนอน คลองตลาดบ้านสมเด็จ จะเป็นเขตของสมเด็จ เจ้าพระยาบรมมหาพิไชยญาติ (ทัต บุนนาค) หรือสมเด็จ เจ้าพระยาองค์น้อย (เจ้ากรมพระคลังสินค้าในรัชกาลที่ ๓ และผู้สำเร็จราชการพระนครในรัชกาลที่ ๔) จวนของสมเด็จเจ้าพระยาองค์น้อยอยู่บริเวณวัดอนงคาราม ใกล้กับวัดร้างที่ท่านได้บูรณะปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ทั้งอาราม แล้ว น้อมเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ เป็นพระอารามหลวง เมื่อ พ.ศ. ๒๓๘๔ ได้พระราชทานนามว่า วัดพระยาญาติการาม ครั้นถึงสมัยรัชกาลที่ ๔ พระราชทานนามใหม่ว่า วัดพิชยญาติ การาม ในการสร้างวัดนี้ท่านได้ให้ขุดคลองสมเด็จหรือคลองวัดอนงคาราม ส่วนท่านผู้หญิงน้อย ภรรยาสมเด็จ เจ้าพระยาองค์น้อย ได้สร้างวัดอนงคารามขึ้นที่บริเวณสวนกาแฟ และได้น้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระอารามหลวงเมื่อ พ.ศ. ๒๓๙๓

พ.ศ. ๒๓๘๐ สมเด็จเจ้าพระยาองค์น้อย ครั้งเป็นที่พระยาศรีพิพัฒน์รัตนราชโกษา กลับจากราชการทัพปราบกบฏไทรบุรี ได้กวาดต้อนชาวไทรบุรีมาด้วย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้พำนักที่ย่านสุเหร่าคลองนางหงส์ก่อน แล้วจึงย้ายไปอยู่แถบคลองแสนแสบ ครั้งนั้นสมเด็จเจ้าพระยาองค์น้อยได้กราบบังคมทูล ขอพระราชทานช่างฝีมือทางผสมโลหะนากและทำเครื่องใช้ เครื่องประดับนากจากเมืองสุไหงปัตตานี ให้มาตั้งถิ่นฐานในตำบลบ้านของท่าน ใกล้กับพวกลาวเวียงจันทร์ที่เป็นช่างทองและช่างนาก ซึ่งเป็นพวกลาวที่เจ้าพระยาบดินทร์เดชา (สิงห์ สิงหเสนี) กวาดต้อนมาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๓๗๐ บริเวณใกล้วัดอนงคารามจึงมีทั้งชื่อ ตรอกช่างทอง และตรอกช่างนาก

1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6


 

Copyright © 2005 Bunnag.in.th All rights reserved.