ในสมัยรัชกาลที่ ๔ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ได้มีการเปลี่ยนแปลงการเมืองภายในหลายประการ
ที่สำคัญได้แก่ การเจรจากับประเทศมหาอำนาจ ความสามารถในการรักษาเอกราชไว้ได้
และการวางรากฐานของการพัฒนาให้ทันสมัย เริ่มจากส่วนของพระราชสำนัก ทรงโปรดเกล้าฯ
ให้จ้างครูฝรั่งมาสอนภาษาอังกฤษแก่พระราชโอรสและพระราชธิดาเป็นต้น ข้าราชสำนักเริ่มสนใจเรียนภาษาอังกฤษมากขึ้น
พระยาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) เป็นผู้หนึ่งที่สนใจในภาษาอังกฤษ ท่านได้ศึกษาตำราที่มีอยู่แพร่หลาย
ในสมัยนั้นจนสามารถเจรจาทำสัญญาทางไมตรีกับฝรั่งชาติต่างๆ ได้ นอกจากนั้นท่านยังสนใจศึกษาพงศาวดารจีน
เมื่อท่านเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน ได้ให้ประชุมนักปราชญ์ทางภาษา แปลวรรณคดีจีนออกเป็นภาษาไทยถึง
๑๙ เรื่อง เช่น เรื่องน่ำซ้อง ซ้องกั๋ง ไต้อั้งเผ่า เป็นต้น
เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ โปรดเกล้าฯ เลื่อนบรรดาศักดิ์เจ้าพระยาพระคลัง
(ดิศ) ขึ้นเป็นสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ และโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาศรีพิพัฒน์ราชโกษา
(ทัต) ขึ้นเป็นสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิไชยญาตินั้น ให้เลื่อนบรรดาศักดิ์พระยาศรีสุริยวงศ์เป็นเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์
ว่าที่สมุหพระกลาโหม และทรงเลื่อนจมื่นราชามาตย์ (ขำ บุนนาค) น้องชายของท่านขึ้นเป็นเจ้าพระยารวิวงศ์มหาโกษาธิบดี
ผู้ช่วยราชการในกรมท่า ทรงพระราชทานตราสุริยมณฑลแก่สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์
(ดิศ บุนนาค) และตราจันทรมณฑลแก่สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิไชยญาติ
(ทัต บุนนาค) เป็นตราประจำสำหรับสมเด็จเจ้าพระยาทั้งสององค์ แต่สมเด็จ เจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ยังคงถือตราคชสีห์สำหรับตำแหน่งสมุหพระกลาโหม
กับตราบัวแก้ว สำหรับตำแหน่งเจ้าพระยาพระคลังอยู่ตามเดิม พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯ
ให้สร้างตราศรพระขรรค์อีกดวงหนึ่งพระราชทานแก่เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ ต่อมาเมื่อท่านได้เป็นสมุหพระกลาโหมเต็มตำแหน่งแล้ว
จึงโปรดเกล้าฯ ให้ท่านใช้ตราศรพระขรรค์เป็นคู่กับตราคชสีห์เหมือนกับตราจักรเป็นคู่กับตราพระราชสีห์สำหรับตำแหน่งสมุหนายก
ตราของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาสุริยวงศ์
(ช่วง บุนนาค)
|
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๔ ได้ทรงพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานที่บ้านของเจ้าพระยา
บดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) อันเป็นบ้านหลวง ให้เป็นจวนที่อยู่ ของเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์
ท่านได้อยู่ที่นี่จนสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ (ดิศ) ผู้บิดาถึงแก่พิราลัยในปี
พ.ศ. ๒๓๙๘ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์
เลื่อนขึ้นเป็นอัครมหาเสนาบดีที่สมุหพระกลาโหมเต็มตำแหน่ง ท่านจึงข้ามฟากไปอยู่ฝั่งธนบุรี
พระบาทสมเด็จ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้างจวนอยู่ใหม่ซึ่งปัจจุบันคือ
สถาบันราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ริมคลองสาน (บริเวณนั้นเคยเป็นสุขศาลาเจ้าคุณพระประยูรวงศ์
ปัจจุบันเป็นวงเวียนเล็ก) ส่วนจวนเดิมของท่านบิดานั้น น้องของท่านได้อาศัยอยู่ต่อมา |
ตลอดรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์
(ช่วง บุนนาค) เป็นบุคคลที่มีความสำคัญมากในการปกครองประเทศสยามโดยเฉพาะหลังจากท่านบิดา
"สมเด็จเจ้าพระยาองค์ใหญ่" และ "สมเด็จเจ้าพระยาองค์น้อย"
ผู้เป็นอาถึงแก่พิราลัยตามลำดับ เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ท่านรับราชการสนองพระเดชพระคุณ
มีความสำคัญมากจนสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงกล่าวเปรียบเทียบไว้ว่า "ถ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่
๔ เป็นเสมือนแม่ทัพแล้วสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ก็เป็นเสมือน เสนาธิการช่วยกันทำงานมาตลอดรัชกาลที่
๔" หน้าที่การงานของท่านในช่วงต้นรัชกาลที่ ๔ มีความสำคัญยิ่ง
เพราะท่านเป็นผู้นำเอาชาวมอญจากเมืองนครเขื่อนขันธ์ ปทุมธานี เข้ามาฝึกหัดทหารแบบฝรั่งเป็นรุ่นแรก
(เป็นเวลาเดียวกันกับที่พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงฝึกหัดชาวญวนเป็นทหารแบบฝรั่งในเขตวังหน้า)
ท่านมีครูทหารชาวอังกฤษที่ได้ชุบเลี้ยงไว้ชื่อ กัปตันน๊อกซ์ (ซึ่งต่อมาได้รับการแต่งตั้งจากฝ่ายอังกฤษเป็น
SIR THOMAS GEORGE KNOX)
สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาสุริยวงศ์
ผู้สำเร็จราชการแผ่นดินสมัยรัชกาลที่ ๕
ในปี พ.ศ. ๒๓๙๘ เซอร์ จอห์น บาวริ่ง (SIR JOHN BOWRING) ราชทูตอังกฤษได้เชิญราชสาส์นของสมเด็จพระราชินีวิกตอเรีย
เข้ามาเจริญทางพระราชไมตรีขอทำหนังสือสัญญาระหว่างประเทศ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงแต่งตั้งข้าหลวง
๕ คน โดยมีเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ร่วมอยู่ด้วย ในครั้งนั้นประเทศไทยได้ทำการเจรจาทำสัญญาการค้าและไมตรีกับประเทศมหาอำนาจตะวันตกเป็นผลสำเร็จ
แม้จะต้องโอนอ่อนผ่อนตามไปบ้างในยุคล่าอาณานิคม แต่ไทยก็สามารถรักษาเอกราชไว้ได้
ในปีต่อมา ทูตอเมริกันและฝรั่งเศสได้เข้ามาทำหนังสือสัญญาการค้าโดยเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์
ร่วมทำสัญญาด้วยโดยมิให้คนไทยเสียเปรียบแก่ต่างชาติ
เซอร์จอห์น บาวริ่ง
|
เซอร์โทมัส จอร์จ น็อกซ์
|
ในด้านการพัฒนาประเทศ เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ได้มีบทบาทหลายด้าน
เช่น เป็นแม่กองคุมการขุดคลองผดุงกรุงเกษม คลองดำเนินสะดวก ควบคุมการสร้างถนน
ริมคลองข้างวัง และถนนจากพระบรมมหาราชวังไปยังด้านทิศใต้เขตฝรั่งซึ่งมีชื่อว่า
"ถนนเจริญกรุง" (ถนนแรก ในเขตพระนคร ฝรั่งเรียกว่า NEW ROAD) ท่านเป็นผู้อำนวยการระดมทุนสร้างสะพานข้ามคลองต่างๆ
โดยมีผู้ร่วมงานชาวต่างประเทศที่สำคัญคือ นายเฮนรี่ อาลบาสเตอร์ (HENRY ALBASTER)(๙)
ในส่วนต่างจังหวัดท่านเป็นแม่กองในการสร้างพระนครคีรีที่เมืองเพชรบุรี สร้างวัดศรีสุริยวงษาวาสที่จังหวัดราชบุรี
และเป็น คนแรกที่สร้างประภาคารในสยามที่จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๔
โดยเล็งเห็นความจำเป็นและประโยชน์ในการเดินเรือ
สายเจ้าคุณพระราชพันธุ์นวล
|
|
|
|
|
|
|