|  
      
      
      (9) ๓:ด พระพรหมธิบาล มีนามว่า จร เกิดในสมัยรัชกาลที่ 
      ๓ เมื่อปี พ.ศ. ๒๓๗๙ เป็นบุตรสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ (ดิศ) กับหม่อมก้อนทอง 
      เข้ารับราชการในรัชกาลที่ ๔ เป็นหลวงชิตภูบาล นายเวรมหาดเล็ก แล้วเป็นจมื่นมหาดเล็กหัวหมื่น 
      ฝ่ายพระราชวังบวรฯ ต่อมาได้เลื่อนเป็นพระณรงค์วิชิต เจ้ากรมตำรวจฝ่ายพระราชวังบวรฯ 
      ในรัชกาลที่ ๕ ได้เป็นพระพรหมธิบาล เจ้ากรมตำรวจฝ่ายพระราชวังบวรฯ ต่อมาได้ลาออกจากตำแหน่ง 
      ถึงแก่กรรมเมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๖ อายุ ๕๗ ปี 
        พระพรหมธิบาล (จร บุนนาค) มีบุตรธิดารวม ๑๑ คน บุตรที่ตำแหน่งสำคัญ มีดังนี้ 
      
        -  หลวงสุนทรภักดี (วุธ) บิดาพลโทพระยาสีหราชเดโชชัย (สวาสดิ์) 
 
        -  นายผาด มหาดเล็ก บิดาหลวงสุรินทร์เดชะ (ผิน) 
 
        -  พระยาประชากิจกรจักร (แช่ม) บิดา จมื่นเทพศิรินทร์ (ประณีต) จ่าแกว่นประกอบการ 
          (ประสิทธิ์) นายสุดจำลอง (ประเสริฐ) และ พันตำรวจเอกพระราชญาติรักษา (ประกอบ) 
          ซึ่งท่านเหล่านี้นับเป็นลำดับชั้นที่ ๕
 
       
      
      (10) ๓:ด พระรัตนาญัปติ มีนามว่า ตู้ 
      เกิดในสมัยรัชกาลที่ ๓ เมื่อ พ.ศ. ๒๓๗๙ เป็นบุตรสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ 
      (ดิศ) กับหม่อมสายบัว เข้ารับราชการในรัชกาลที่ ๔ เป็นนายไชยขรรค์หุ้มแพรมหาดเล็ก 
      แล้วเป็นหลวงชาติสุรินทร์ กรมพระกลาโหม ต่อมากลับไปรับราชการในกรมมหาดเล็ก 
      เป็นจ่ายง แล้วเลื่อนเป็น จ่ายงยศสถิต  
      ในรัชกาลที่ ๕ โปรดเกล้าฯ ให้เป็นพระรัตนาญัปติ ถึงแก่กรรม เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๖ 
        อายุ ๕๗ ปี  
       
      พระรัตนาญัปติ (ตู้ บุนนาค) มีบุตรธิดา ๑๑ คน บุตรที่สำคัญ ได้แก่ หลวงธนผลพิทักษ์ 
        (อี๋) ลำดับชั้น ที่ ๔ มีบุตรชื่อ รองอำมาตย์โท นายเวรกรมรักษาที่หลวง (จิตร) 
        ศักดิ์ และออม ซึ่งนับเป็นลำดับชั้นที่ ๕ 
         
       
            
      (11) ๓:ด พระสัจจาภิรมย์ มีนามว่า เปาะ 
      เกิดในสมัยรัชกาล ที่ ๓ เมื่อ พ.ศ. ๒๓๗๙ เป็นบุตรสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ 
      (ดิศ) กับหม่อมทับ เข้ารับราชการในรัชกาลที่ ๔ เป็นนายรองสนิทมหาดเล็ก แล้วเป็นหลวงสัจจาภิรมย์ 
      ผู้ช่วยราชการเมืองราชบุรี  
      ในรัชกาลที่ ๕ ได้เลื่อนขึ้นเป็นพระสัจจาภิรมย์ ถึงแก่กรรมเมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๖ 
        อายุ ๔๗ ปี  
       
      พระสัจจาภิรมย์ (เปาะ บุนนาค) มีบุตรธิดาหรือไม่ ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด 
         
       
            
      (12) ๓:ด พระยาอุไทยธรรม มีนามว่า จีน 
      เกิดในสมัยรัชกาลที่ ๓ เมื่อ พ.ศ. ๒๓๗๙ เป็นบุตรสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ 
      (ดิศ) กับหม่อมคล้าย เข้ารับราชการในรัชกาลที่ ๔ เป็นนายรองไชยขรรค์ แล้วเป็นนายราชาวุธหุ้มแพรพิเศษ 
      กรมภูษามาลา แล้วเป็นหลวงราชวงศา 
      ในรัชกาลที่ ๕ โปรดเกล้าฯ ให้เป็นพระราชพงศา แล้ว เป็นพระยาราชพงศา ต่อมาเลื่อนขึ้นเป็นพระยาอุไทยธรรม 
        จางวางภูษามาลา ถึงแก่อนิจกรรมในรัชกาลที่ ๖ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๔ อายุ ๗๕ ปี 
       
      พระยาอุไทยธรรม (จีน) สมรสกับคุณหญิงม่วง มีบุตรธิดา ๓ คน ได้แก่ หลวงราชวงศา 
        (เจิม) จาด (ญ) และทิ้ง (ช) มีหลานชายซึ่งเป็นบุตรของทิ้ง ชื่อ นาวาตรีหลวงพร้อมพลากร 
        ซึ่งนับเป็นลำดับชั้นที่ ๕ 
      
      (13) ๓:ด นายรักษ์ภูวนารถ มีนามว่า หยอด 
      เกิดในสมัยรัชกาล ที่ ๓ เมื่อ พ.ศ. ๒๓๘๑ เป็นบุตรสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ 
      (ดิศ) กับหม่อมสุ่น เข้ารับราชการในรัชกาลที่ ๔ เป็นนายรักษ์ภูวนารถ หุ้มแพรมหาดเล็ก 
      ถึงแก่กรรมในรัชกาลที่ ๔ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๐๕ อายุ ๒๔ ปี ไม่ปรากฎทายาทสืบต่อ 
       
       
       
      
         
            | 
           
             หน้า 11 
           | 
           
            
           | 
         
       
        
       
       
      
         
          |  
             สายเจ้าคุณพระราชพันธุ์นวล 
           | 
         
         
          |  
            
           | 
         
         
          |  
            
           | 
         
         
          |  
            
           | 
         
         
          |  
            
           | 
         
         
          |  
            
           | 
         
       
       
      
     |