(๓) ๗:ด:1:1:1:3 ธิดาพระยานิพัทธ์กุลพงศ์
(ชิน บุนนาค) กับคุณหญิงเปลื้อง เป็นหลานปู่พระยาประภากรวงศ์วรวุฒิภักดี
(ชาย บุนนาค) เกิด พ.ศ. ๒๔๖๖ เข้าเรียนที่โรงเรียนผดุงดรุณี และโรงเรียนมิชชันนารีพระคริสตธรรม
จบระดับชั้นประถมศึกษา ท่านบิดาให้ออกจากโรงเรียนมาอยู่บ้าน โดยท่านเป็นครูสอนวิชาต่างๆ
ให้ โดยเริ่มหัดพิมพ์ดีดตั้งแต่เด็กจนพิมพ์ภาษาอังกฤษได้ และช่วยท่านบิดาพิมพ์จดหมายโต้ตอบกับชาวต่างประเทศ
เริ่มเข้าสู่วงการแสดงเมื่ออายุประมาณ ๑๖ ปี ได้แสดงภาพยนตร์ไทยเรื่อง
"วันเพ็ญ" เป็นภาพยนตร์ขาวดำ ๓๕ มิลลิเมตร เสียงในฟิล์ม
กำกับการแสดงโดยพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล (เสด็จพระองค์ชายใหญ่)
และมีนายชาญ บุนนาค พี่ชายเป็นผู้กำกับเสียง มีนายสนิท พุกประยูรเป็นพระเอก
ประสบความสำเร็จสำหรับภาพยนตร์ไทยในสมัยนั้น ต่อมาแสดงละครการกุศลให้กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
และมูลนิธิราชประชาสมาศัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เรื่อง "ฟ้าแจ้งจางปาง"
มีศาสตราจารย์คุณหญิงจินตนา ยศสุนทร และศาสตราจารย์ คุณหญิงเต็มศิริ
บุณยสิงห์ ร่วมแสดงด้วย หลังจากนั้นพี่ชายชวนไปเล่นละครเวทีที่โรงละครแห่งชาติ
ในปีต่อมา ได้เป็นหม่อมของพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล
หลังจากสงครามโลกครั้งที่ ๒ สงบลง หม่อมปริมได้เปิดร้านเสริมสวยชื่อ
"โมฬี"
เนื่องจากพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล โปรดงานด้านศิลปะทุกแขนง
ทั้งภาพยนตร์ ละคร วรรณกรรม และโบราณวัตถุ เป็นต้น ท่านได้ตั้งโรงพิมพ์ประชาธิปไตย
เขียนคอลัมน์วิจารณ์การเมือง ซึ่งในสมัยนั้นการเขียนบทความเช่นนี้ต้องระมัดระวังมาก
จึงเปลี่ยนมาเขียนบทละคร เรื่องที่มีชื่อเสียงมาก คือ เรื่องพันท้ายนรสิงห์
และต่อมาแสดงเป็นละครเวที เสด็จพระองค์ชายใหญ่ทรงทำละครในนามของคณะ
"อัศวินการละคร" และสร้างภาพยนตร์ในนามของบริษัท "อัศวินภาพยนตร์"
หม่อมปริมได้เข้ามาช่วยงานทั้งสองกิจการ และได้เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนการแสดงของอัศวิน
หม่อมปริม บุนนาค มีฝีมือในการทำอาหารคาวหวาน หลายอย่าง เนื่องจากชีวิตในวัยเด็กเคยอยู่ในบ้านท่านเจ้าจอมพิศว์
(เจ้าจอมในรัชกาลที่ ๕) ซึ่งท่านมีศักดิ์เป็นทวด ได้เคยช่วยงานประดิษฐ์และแกะสลักผลไม้
ทำขนมปั้นขลิบ และขนมลูกชุบ เป็นต้น เมื่อมีการประกวดการทำขนมลูกชุบในงาน
"เคหะสงเคราะห์" ของการเคหะแห่งชาติ ซึ่งจัดขึ้นครั้งแรกที่สวนอัมพร
ประมาณปี พ.ศ. ๒๔๙๖ หม่อมปริมได้ส่งขนมลูกชุบ ฝีมือของตนเองเข้าประกวด
และได้รับรางวัลที่ ๑ หลังจากนั้นได้ทำขนมลูกชุบเป็นงานอดิเรก ฝากขายที่ร้านอาหารสุโขทัย
เมื่อมีคนรู้จักสั่งมากขึ้น จึงรับทำตามสั่งอย่างเดียว ส่วนใหญ่จะปั้นเป็นรูปผลไม้ต่างๆ
โดยจดจำ สูตรจากคุณย่า คือ ท่านชื่น ภรรยาพระยาประภากรวงศ์วรวุฒิภักดี
(ชาย) นอกจากนี้ยังทำท็อฟฟี่กะทิจากสูตรคุณหญิงเปลื้อง บุนนาค มารดาของหม่อมปริมอีกด้วย
ปัจจุบันนี้หม่อมปริม บุนนาค อายุ ๗๖ ปี ยังคงฝีมือเป็นเอกในการทำขนมไทยโบราณ
โดยเฉพาะลูกชุบและท๊อฟฟี่กะทิ ฝีมือชาววัง
|