(5) ๕:ด:2:5 พระยาอมรฤทธิธำรงค์ 
          (บุญชู) เกิดในสมัยรัชกาลที่ ๕ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๖ เป็นบุตร พระศรีธรรมสาส์น 
          (เชย บุนนาค) กับท้าวราชกิจวรภัตรศรีสวัสดิ์รสาหาร (ปุย บุนนาค) ธิดาพระยามนตรีสุริยวงศ์ 
          (ชุ่ม บุนนาค) ถวายตัวเป็นมหาดเล็กอยู่ในรัชกาลที่ ๖ เมื่อครั้งยังเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช 
          เมื่อเสด็จขึ้นเสวยราชสมบัติแล้ว ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นนายจำนงค์ราชกิจ 
          เป็นหลวงมหาสิทธิโวหาร และเป็นพระยาราชสาส์นโสภณ ในกรมมหาดเล็ก 
          
 โปรดเกล้าฯ ให้เป็นพระยาอมรฤทธิธำรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและจังหวัดตะกั่วป่า 
            ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทุติยจุลจอมเกล้า (พานทอง) เมื่อ 
            พ.ศ. ๒๔๖๓ ถึงอนิจกรรมในรัชกาลที่ ๗ พ.ศ. ๒๔๗๑ อายุ ๔๕ ปี 
           สมรสกับคุณหญิงชุมนุม บุนนาค ต.จ. ธิดาพระยามนตรีสุริยวงศ์ (ชื่น บุนนาค) 
            มีบุตรธิดา ๖ คน นับเป็นชั้นที่ ๖ บุตรได้แก่ ชงัด ชัชวาลย์ และชาญเวช 
          
          
          
         
       
      
        
         
         
         
        (1) ๕:ด:2:6 บุตรพระยาไกรเพชรรัตนสงคราม 
        (แฉ่) กับคุณหญิง ฟอง ธิดาพระยาวิชิตสงคราม (ทัต รัตนดิลก ณ ภูเก็ต) เกิด 
        พ.ศ. ๒๔๑๓ ในสมัยรัชกาลที่ ๕ เมื่อเยาว์วัยได้ไปศึกษาที่เกาะปีนัง และที่ประเทศอังกฤษ 
        เมื่อสมัยที่ท่านบิดาเป็นอุปทูตประจำอยู่ที่กรุงลอนดอน เข้ารับราชการในตำแหน่งล่าม 
        กรมรถไฟหลวง แล้วย้ายไปอยู่กรมป่าไม้ ต่อมาเป็นเลขานุการสมุหเทศาภิบาลมณฑลนครสวรรค์และมณฑลราชบุรี 
        ซึ่งท่านบิดาดำรงตำแหน่งสมุหเทศา ภิบาลในขณะนั้น 
 
      พ.ศ. ๒๔๔๘ ไปเป็นล่ามต่างประเทศประจำอยู่ที่มณฑลภูเก็ต ประมาณ ๕ ปี เมื่อสุขภาพไม่สมบูรณ์จึงลาออกจากราชการกลับมาอยู่กรุงเทพฯ 
        ถึงแก่กรรมในปี พ.ศ.๒๔๕๓ อายุ ๔๐ ปี 
      สมรสกับ ทองสุก มีบุตรธิดา ๙ คน บุตรได้แก่ ชะ เสวกตรีนายลิขิตสารสนอง (ชัพน์) 
        ชิวห์ ฉุน และเฉียบ มีธิดาชื่อ ชิ้ม เป็นภรรยาพระดุลยกรณพิทารณ์ (เชิด บุนนาค) 
        ธิดาชื่อ เฉียด เป็นภรรยานายเฉิด บุนนาค เป็นต้น
       
        
        
         
         
         
        (๖) ๕:ด:2:6 ธิดาพันเอก พระยาไกรเพชรรัตนสงคราม 
        (แฉ่ บุนนาค) ท.จ. กับคุณหญิงนิ่ม ต.จ. เกิด พ.ศ. ๒๔๓๘ เมื่อเยาว์วัยบิดาได้นำเข้าถวายตัวเป็นข้าหลวงสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ 
        ได้รับพระราชทานส่งเข้าศึกษาที่โรงเรียนราชินีจนจบมัธยมศึกษา แล้วได้เป็นครูที่โรงเรียนราชินีอยู่ระยะหนึ่ง 
        
เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ 
          พระบรมราชชนนีพระพันปีหลวงเสด็จเข้าประทับ ณ พระราชวังพญาไท เมื่อ ๒๖ มีนาคม 
          ๒๔๕๓ ได้ทรงเลือกข้าหลวงรุ่นใหญ่ (อายุ ๑๗ - ๑๘ ปีขึ้นไป) จากกุลสตรีผู้เป็นธิดาในตระกูลต่างๆ 
          รวม ๑๔ ท่าน อยู่ในสกุลบุนนาค ๓ ท่าน คือ คุณเฉื่อย บุนนาค ธิดาพระศรีธรรมสาส์น 
          (เชย) กับท้าวราชกิจวรภัทร (ปุย) คุณเนือง และคุณสุทธศรี บุนนาค ธิดาพระยาไกรเพชรรัตนสงคราม 
          (แฉ่) กับคุณหญิงนิ่ม คุณข้าหลวงทั้ง ๑๔ ท่านนี้เป็นข้าหลวงที่ขึ้นรับใช้ในห้องพระบรรทม 
          มีหน้าที่เข้าเวรรับราชการเฉพาะพระองค์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งเฝ้าอารักขาพยาบาลสนองพระราชกิจส่วนพระองค์ทุกประการ 
          ทั้ง ๑๔ ท่านอยู่ในความดูแลของคุณท้าวสมศักดิ์ (หม่อมราชวงศ์ปุย มาลากุล) 
          ซึ่งเป็นนางสนองพระโอษฐ์ หัวหน้าห้องพระบรรทม 
        คุณเนือง รับราชการในพระองค์สมเด็จพระพันปีหลวง จนเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 
          ๒๐ ตุลาคม ๒๔๖๒ ณ พระราชวังพญาไท คุณเนืองขึ้นชื่อว่าเป็นคุณข้าหลวงที่ทรงโปรดมาก 
          ได้รับพระราชทานเสมารูปไข่โปร่งมีพระนามย่อ "ส.ผ." มีรัศมีฝังเพ็ชรล้อมเป็นชั้นที่ 
          ๑ และเข็มกลัด "เสาวภา" พระนามเต็ม ทองคำลงยาสีน้ำเงินในฐานะเป็นผู้เรียนดีและมีความประพฤติดี 
        
        คุณเนืองสมรสกับ พระภูมิพิชัย (หม่อมราชวงศ์บุง ลดาวัลย์) มีบุตรธิดา 
          ๕ คน คือ
                   ๑. หม่อมหลวงทวีสันต์ 
          ลดาวัลย์ สมรสกับท่านผู้หญิงบุษบา กิติยากร 
                   ๒. หม่อมหลวงนิรันดร 
          ลดาวัลย์ สมรสกับพิศมัย 
                   ๓. หม่อมหลวงภียยุพงศ์ 
          ลดาวัลย์ สมรสกับชูชีพ บุนนาค 
                   ๔. หม่อมหลวงขันทอง 
          ลดาวัลย์ 
                   ๕. หม่อมหลวงหิรัญญิกา 
          วรรณเมธี สมรสกับ นายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย
         คุณเนืองถึงแก่กรรม ในปี พ.ศ. ๒๔๗๖
        
        
         
          
            
               
                |  
                  
                 | 
                 
                   (2) ๕:ด:2:6 เกิดในสมัยรัชกาลที่ 
                    ๕ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๐ เป็นบุตรพระยาไกรเพชรรัตนสงคราม (แฉ่ บุนนาค) 
                    มารดาชื่อ คุณหญิงฟอง ธิดาพระยาวิชิตสงคราม (ทัต รัตนดิลก ณ 
                    ภูเก็ต) ผู้ว่าราชการเมืองภูเก็ต เมื่อเยาว์วัยได้ติดตามบิดาออกไปศึกษาที่ประเทศอังกฤษ 
                    เมื่อสมัยที่ท่านบิดาเป็นอุปทูตประจำอยู่ ณ กรุงลอนดอน ท่านฉี่เข้ารับราชการอยู่ในกระทรวงมหาดไทย 
                    ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นหลวงรามฤทธิรงค์ แล้วเป็นพระรามฤทธิรงค์ 
                    ตำแหน่งข้าหลวงประจำจังหวัดน่าน ต่อมาได้เลื่อนขั้นเป็นพระยาอมรฤทธิธำรงค์ 
                    ข้าหลวงประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา  
                  โปรดเกล้าฯ ให้เป็นพระยาจ่าแสนบดี เข้ามารับราชการในกระทรวงมหาดไทย 
                    ต่อมาได้เลื่อนเป็นพระยามนตรีสุริยวงศ์ ตำแหน่งสมุหเทศาภิบาลมณฑลราชบุรี 
                    ถึงอนิจกรรมในรัชกาลที่ ๖ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๕ อายุ ๔๕ ปี  
                  ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ประถมาภรณ์มงกุฎไทย ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ 
                    และทวีติยาภรณ์ช้างเผือก  
                  พระยามนตรีสุริยวงศ์ (ฉี่ บุนนาค) มีบุตรธิดา ๑๐ คน นับเป็นชั้นที่ 
                    ๖ บุตรได้แก่ หลวงวัชรีเสวิน (ชิก) เฉลียว ฉลาด และฉันท์ ธิดาชื่อ 
                    ฉอิ้ง เป็นภรรยาชิวห์ บุนนาค บุตรนายฉ่า บุนนาค เป็นต้น 
       |