(11) ๔:ท:15 บุตรพระยานานาพิธภาษี
(โต) มารดาชื่อ แพ เกิด พ.ศ. ๒๔๒๐ สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนอัสสัมชัญ
และโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบในพระบรมมหา ราชวัง เข้ารับราชการในสมัยรัชกาลที่
๕ เป็นล่ามภาษาอังกฤษ อธิบดีกรมกองตระเวณกระทรวงนครบาล พ.ศ. ๒๔๔๙ ได้เป็นปลัดกรมโรงเรียนกองเกณฑ์พลตำรวจเป็นคนแรก
ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นหลวงสมัครใจราษฎร์ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๒
ในต้นรัชกาลที่ ๖ ได้ย้ายไปเป็นผู้บังคับการตำรวจเรือนจำกรุงเทพฯ
ซึ่งมีตำรวจอยู่ในบังคับบัญชา ๒ โรงพักคือ โรงพักเรือนจำกองมหันตโทษและลหุโทษ
(ที่ริมคลองหลอด สถานที่ตั้งกระทรวงยุติธรรมในปัจจุบัน) ต่อมาได้เป็นผู้บัญชาการกองมหันตโทษ
สังกัดกรมราชทัณฑ์อีกตำแหน่งหนึ่ง โปรดเกล้าฯ เลื่อนยศและพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นนายพันตำรวจโท
พระพัศดีกลาง และนายพันตำรวจเอกพระยาพัสดีกลาง ตามลำดับ ลาออกรับพระราชทานบำนาญโดยครบเกษียนอายุ
๕๕ ปี เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๕ ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุดคือ
ทวิติยาภรณ์มงกุฎไทย ตติยจุลจอมเกล้าวิเศษ และตริตาภรณ์ช้างเผือก
พระยาพัศดีกลาง (โหม่ง บุนนาค) สมรสกับคุณหญิงเนียน ธิดาเจ้าพระยาศรีวิไชยชนินทร
(ชม สุนทรารชุน) มีบุตรธิดา ๕ คน บุตรได้แก่ จารุ มีธิดาชื่อ ละม่อม
เป็นภรรยาพระนิตินัยประสาน (พงศ์ บุนนาค) ธิดาชื่อ ยุพดี เป็นนางพระกำนัลในรัชกาลที่
๖ สมรสกับร้อยโทเฉลียว โชติกเสถียร ธิดาชื่อ อุบล เป็นหม่อมในหม่อมเจ้า
พรพิพัฒน์ เกษมสันต์ โอรสพระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้น ๖ กรมหลวงพรหมวรานุรักษ์
พระยาพัศดีกลาง(โหม่ง บุนนาค)ถึงอนิจกรรม พ.ศ. ๒๔๙๘ อายุ ๗๘ ปี