(๓) ๗:ด:1:1:2:9 ธิดาพระยาสุริยาวงศ์ประวัติ (เต๋า บุนนาค) กับคุณหญิงเยื้อน (สกุลเดิม ยุกตะนันท์) จบชั้นมัธยมศึกษา (ม.๖) จากโรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนด์ และไปเรียนต่อที่โรงเรียนราชินีบนจนจบชั้นมัธยมบริบูรณ์ พ.ศ. ๒๔๗๖ เข้าศึกษาที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในแผนกเตรียมแพทย์และวิทยาศาสตร์ จบแพทยศาสตร์บัณฑิตจากแพทย์ศิริราชในปี พ.ศ. ๒๔๘๒ ได้รับเหรียญรางวัลที่ ๑ ในแผนกศัลยกรรม เข้าทำงานเป็นแพทย์ประจำบ้านในแผนกสูตินรีเวชกรรม โรงพยาบาลศิริราช เมื่อวชิรพยาบาลสร้างตึกสูติกรรมใหม่ ต้องการแพทย์ทางแขนงนี้จึงได้ย้ายที่ทำงานที่วชิรพยาบาล และได้เป็นแพทย์ของกรุงเทพมหานคร เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๓ ระหว่างสงคราม โลกครั้งที่ ๒ แพทย์หญิงคุณหญิงตวงภากร์ต้องทำงานหนักมาก เพราะมีแพทย์ในแผนกนี้เพียง ๓ คน ได้แก่ นายแพทย์กร เกรียงไกร เป็นหัวหน้าแผนก นายแพทย์ประพนธ์ เสรีรัตน์ และแพทย์หญิงคุณหญิงตวงภากร์ เป็นแพทย์ผู้ช่วย ต้องทำหน้าที่รักษาพยาบาลผู้ป่วยจากสะเก็ดระเบิด ผ่าตัดและทำคลอดอีกด้วย

พ.ศ. ๒๕๐๖ ได้เป็นหัวหน้าแผนกต่อจากนายแพทย์ประพนธ์ และเป็นรองผู้อำนวยการวชิรพยาบาล พ.ศ. ๒๕๑๔ เป็นผู้อำนวยการคนแรกของโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ และเป็นผู้อำนวยการหญิงคนแรกของโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานคร ท่านเป็นผู้ริเริ่มให้มีการคุมกำเนิดชนิดใช้ห่วง Margulies ได้รับทุนวิจัยติดต่อกันมา ๗ ปี จาก Population Council ของสหรัฐอเมริกา

แพทย์หญิงคุณหญิงตวงภากร์ได้รับทุน Columbo ไปฝึกงานและดูงานที่ประเทศออสเตรเลีย และสอบได้รับใบประกอบโรคศิลป ของมหาวิทยาลัยแพทย์ที่ประเทศออสเตรเลีย เป็นแพทย์ไทยคนเดียวที่ได้รับอนุญาตให้เข้าสอบสถาบันการแพทย์ของ Australia Medical Board นอกจากนี้ท่านยังได้รับทุนไปศึกษาดูงานอีกหลายประเทศ ในด้านมารดาทารกสงเคราะห์ และสูติ นรีเวช ในปี พ.ศ. ๒๕๐๓ ได้เป็นผู้ก่อตั้งสมาคม แพทย์สตรีแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ขึ้น โดยมีงานที่ปฏิบัติประจำของสมาคมในขณะนั้นคือ การตรวจมะเร็งในระยะเริ่มแรกและการให้บริการคุมกำเนิด

พ.ศ. ๒๕๑๓ เป็นผู้ก่อตั้งสมาคมสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทยขึ้น และดำรงตำแหน่งกรรมการและเหรัญญิกให้แก่สมาคมอยู่ ๔ ปี ต่อมาได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นวิทยาลัย ราชวิทยาลัยตามลำดับ สถาบันนี้ได้ทำประโยชน์ทางด้านสูติศาสตร์นรีเวชวิทยาให้กับประเทศเป็นอันมาก

นอกจากนี้ยังเป็นผู้ก่อตั้งและเป็นประธานกรรมการรถแพทย์และทันตแพทย์เคลื่อนที่ของสโมสรซอนต้า กรุงเทพ ๑ โดยเอาโครงสร้างของรถเมล์ขนาดใหญ่มาต่อเป็นรถบริการ โดยมีห้องตรวจ ห้องยา ห้องสุขา และติดเครื่องปรับอากาศ พร้อมเปิดบริการ เมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๐๗ ที่วังสุโขทัยโดยสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ ๗ ทรงเป็นประธานในพิธีเปิดและได้เริ่มให้บริการที่ชุมชนแออัดของกรุงเทพมหานครแทบทุกแห่ง ซึ่งท่านปฏิบัติงานเองอยู่ถึง ๑๒ ปีเป็นกิจกรรมร่วมกับสมาคมแพทย์สตรี ท่านยังได้รับเลือกเป็นกรรมการอำนวยการอีกหลายองค์กร เช่น สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย (พ.ศ. ๒๕๐๘ - ๒๕๑๒) สภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ (พ.ศ. ๒๕๐๘ - ๒๕๑๐) สมาคมไทย-ออสเตรเลียน พุทธสมาคมแห่งประเทศไทย เป็นต้น

อนึ่ง ท่านเป็นผู้ติดต่อขอบริจาคที่ดินของคุณหญิงแพทย์โกศล ที่ถนนสุขุมวิท ตรงข้ามวัดธาตุทอง จำนวน ๑ ไร่ ๖๐ ตารางวา ให้เป็นสำนักงานที่ทำการของสมาคม แพทย์สตรีแห่งประเทศไทย และยังได้รับเงินบริจาคจากคุณหญิงแพทย์โกศลให้กับโรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลวชิระ และสมาคมแพทย์สตรีแห่งประเทศไทย แห่งละ ๖ ล้านบาทอีกด้วย นับว่าเป็นพระคุณแก่สถาบันทั้ง ๓ เป็นอย่างมาก

เครื่องราชอิสริยาภรณ์สูงสุดที่ได้รับพระราชทาน คือ ประถมาภรณ์มงกุฎไทย และตติยจุลจอมเกล้า

แพทย์หญิงคุณหญิงตวงภากร์ สมรสกับศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.เจริญ ธรรมพานิช บัณฑิตวิทยาศาสตร์คนแรกของประเทศไทย และเป็นศาสตราจารย์อุปการคุณของภาควิชาวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีบุตรธิดา ได้แก่ แพทย์หญิงสุตาพร เป็นภรรยานายแพทย์อรรถกวี สวัสดิ์เสวี และ นายรพีพัฒน์ ธรรมพานิช


(๕) ๗:ด:1:1:2:9 ธิดาพระยาสุริยานุวงศ์ประวัติ (เต๋า บุนนาค) กับคุณหญิงเยื้อน (สกุลเดิม ยุกตะนันท์) เกิด พ.ศ. ๒๔๖๒ ในจวนผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ที่ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา เป็นหลานปู่ของเจ้าพระยาสุรวงศ์วัฒนศักดิ์ (โต บุนนาค) สมุหราชองครักษ์ในรัชกาลที่ ๕

ระหว่างท่านบิดารับราชการต่างจังหวัด ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนวรนารีเฉลิม จังหวัดสงขลา เมื่อย้ายกลับมากรุงเทพฯ ได้เข้าเรียนต่อที่โรงเรียนผดุงดรุณี ถนนประมวล จนจบชั้นมัธยมของโรงเรียน และไปศึกษาต่อที่โรงเรียนเซนต์แมรีส (เอส.พี.จี.) จนจบมัธยมบริบูรณ์เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๒

สมรสกับศาสตราจารย์ ดร.ประกอบ หุตะสิงห์ องคมนตรี บุตรพระยาสรรพกิจเกษตรการกับคุณหญิง ศวง สรรพกิจ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๕ ขณะที่พระยาสรรพกิจเกษตรการดำรงตำแหน่ง ปลัดทูลฉลองกระทรวงเกษตราธิการ มีบุตรธิดา ๔ คน บุตรได้แก่ สุประดิษฐ์ ประตาป และประมวล มีธิดา ๑ คนชื่อ กอบชื่น

ท่านผู้หญิงชวนชื่นได้ถวายการรับใช้เบื้องพระยุคลบาท ในรัชกาลองค์ปัจจุบันตลอดมา ตามพระราชประสงค์ ท่านได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก มหาวชิรมงกุฎ และทุติยจุลจอม เกล้าวิเศษ

หน้า 105

 


สายเจ้าคุณพระราชพันธุ์นวล
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30
31 | 32 | 33 | 34 | 35 | 36 | 37 | 38 | 39 | 40 | 41 | 42 | 43 | 44 | 45 | 46 | 47 | 48 | 49 | 50 | 51 | 52 | 53 | 54 | 55 | 56
57 | 58 | 59 | 60 | 61 | 62 | 63 | 64 | 65 | 66 | 67 | 68 | 69 | 70 | 71 | 72 | 73 | 74 | 75 | 76 | 77 | 78 | 79 | 80 | 81 | 82
83 | 84 | 85 | 86 | 87 | 88 | 89 | 90 | 91 | 92 | 93 | 94 | 95 | 96 | 97 | 98 | 99 | 100 | 101 | 102 | 103 | 104 | 105 | 106
107 | 108 | 109 | 110 | 111 | 112 | 113 | 114 | 115

Copyright © 2005 Bunnag.in.th All rights reserved.