|
(6) ๖:ด:1:1:2 บุตรพลโทเจ้าพระยาสุรวงศ์วัฒนศักดิ์
(โต) มารดาชื่อ ทับทิม เกิด พ.ศ. ๒๔๓๗ เริ่มศึกษาที่โรงเรียนราชกุมารในพระบรมมหาราชวัง
โดยบิดานำเข้าถวายตัวให้เป็นมหาดเล็กของสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงสงขลานครินท์
เมื่อท่านเสด็จไปทรงศึกษาต่อ ณ ต่างประเทศ นายแพทย์เติม ได้ย้ายไปเรียนที่โรงเรียนราชวิทยาลัย
ซึ่งตั้งอยู่ที่โรงเลี้ยงเด็ก เชิงสะพานยศเส ต่อมาได้รับพระมหากรุณาธิคุณให้ไปศึกษาต่อที่ประเทศเยอรมนี
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๑ ประเทศไทยเข้าร่วมสงครามกับฝ่ายสัมพันธมิตร
การศึกษาที่โรงเรียนจึงต้องชะงักไป นักเรียนไทยหลายคนถูกกักบริเวณ
เช่น ดร.ตั้ว ลพานุกรม ดร.ประจวบ บุนนาค ม.ล.เดช สนิทวงศ์ ม.ล.อุดม
สนิทวงศ์ และหลวงสุริยพงศ์ฯ (กระจ่าง บุนนาค) เป็นต้น แต่ได้รับอนุญาตเป็นพิเศษให้ครูเยอรมันมาสอนในระหว่างนั้นได้
เมื่อสงครามยุติลงได้สมัครเข้าเป็นทหารอาสา ไปสงครามร่วมกับทหารอาสาจากประเทศไทย
โดยทำหน้าที่เป็นล่าม
พ.ศ. ๒๔๖๓ ได้ไปศึกษาต่อที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ต่อมาได้เข้าเรียนวิชาแพทย์
ที่มหาวิทยาลัยกรุงเบอร์น สอบได้ปริญญาแพทยศาสตร์เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๐
ในปีต่อมาได้รับประกาศนียบัตรจากการทำงานค้นคว้าวิจัยอีกด้วย
|
สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงสงขลานครินทร์ ได้ทรงพระกรุณาให้นายแพทย์เติม ได้เป็นสมาชิกของมูลนิธิร๊อกส์เฟลเลอร์
และพระราชทานทุนส่วนพระองค์ให้ศึกษาวิชาสูติศาสตร์ และนรีเวชวิทยา (Obstetrics
and Gynecology) ทั้งเรียนศัลยกรรมด้วย ที่มหาวิทยาลัยกรุงเบอร์น ในหน้าที่
Voluntary Assistant
พ.ศ. ๒๔๗๒ ได้ศึกษาและได้ปฏิบัติงานด้านสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยาที่โรงพยาบาลต่างๆ
ที่ประเทศเยอรมนี จนถึงปี พ.ศ. ๒๔๗๘ ต่อจากนั้นได้ไปดูงานกิจการในโรงพยาบาลหญิงของประเทศเดนมาร์ก
สวีเดน ออสเตรีย และฮังการี ตลอดการศึกษาได้รับทุนเล่าเรียนส่วนพระองค์ของสมเด็จเจ้าฟ้าฯ
กรมหลวงสงขลานครินทร์ เป็นเวลาประมาณ ๒๑ ปี
พ.ศ. ๒๔๗๔ เข้ารับราชการเป็นอาจารย์โท สอนนักศึกษาแพทย์และนักเรียนพยาบาลผดุงครรภ์
แผนกสูติศาสตร์-
นรีเวชวิทยา คณะแพทย์ศาสตร์ มหา วิทยาลัยแพทยศาสตร์ และศิริราชพยาบาล ต่อมาเป็นหัวหน้าแผนก
ได้ปรับปรุงงานในแผนก ทั้งขออนุมัติงบประมาณและขอรับบริจาคเงินมาจัดซื้อเรเดียมสำหรับใช้รักษาคนไข้โรคมะเร็ง
และจัดการสร้างต่อเติมตึกผ่าตัดของแผนก เป็นต้น
ศาสตราจารย์นายแพทย์เติม บุนนาค ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถในรัชกาลปัจจุบันให้เป็นกรรมการแพทย์
ถวายพระประสูติกาลสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี
นอกจากนี้ท่านยังเป็นอาจารย์ผู้ปกครองนักศึกษาแพทย์คนแรก ได้วางระเบียบไว้ทั้งนักเรียนแพทย์ชายและนักเรียนแพทย์หญิง
เป็นกรรมการสร้างหอประชุมแพทย์และเป็นกรรมการทุนอานันทมหิดล เป็นต้น ในปี
พ.ศ. ๒๔๘๕ โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นราชบัณฑิต สำนักวิทยาศาสตร์ ราชบัณฑิตยสถาน
พ.ศ. ๒๕๐๒ พ้นจากตำแหน่งในโรงพยาบาลศิริราช หลังจากนั้นได้รับเชิญให้เป็นอาจารย์พิเศษต่อไปจนถึง
พ.ศ. ๒๕๑๕ จึงได้เลิกสอน ท่านยังรับเป็นแพทย์ที่ปรึกษาของแผนกนรีเวชกรรม
โรคเฉพาะสตรีของวชิร-พยาบาล และได้ทำหน้าที่ตรวจคนไข้ สอนนักเรียนแพทย์ซึ่งทางโรงพยาบาลรามาธิบดีส่งมาฝึกทุกสัปดาห์
จนถึงอายุ ๘๕ ปี ท่านได้เขียนตำราสูติศาสตร์ สำหรับพยาบาลและผดุงครรภ์ ร่วมกับนายแพทย์ธระ
สุขวัจน์ อีกด้วย ท่านถึงแก่กรรมเมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๕ อายุ ๘๘ ปี
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ได้รับพระราชทาน ได้แก่ ประถมาภรณ์ช้างเผือก ประถมาภรณ์มงกุฎไทย
ทุติยจุลจอมเกล้า เหรียญรัตนาภรณ์ชั้น ๓ และ เหรียญจักรพรรดิมาลา
ท่านได้สมรสกับ ทวี (สกุลเดิม แก้วดวงเล็ก) มีบุตร ๑ คน ชื่อ ดร.เติมชัย
(ได้รับทุนการศึกษาระดับปริญญาเอก ณ สถาบันเทคโนโลยีแห่งอิลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา)
นับเป็นลำดับชั้นที่ ๗ และมีหลานปู่ชื่อ นายเติมเทพ บุนนาค ซึ่งเป็นลำดับชั้นที่
๘
|
หน้า 73
|
|
สายเจ้าคุณพระราชพันธุ์นวล
|
|
|
|
|
|
|